แมนยูคว้าแชมป์สมัยที่ 20 สุดสวย ฟานเพอร์ซีซัดแฮตทริก
เมื่อ 23 เม.ย. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 20 แล้ว เมื่อโรบิน ฟานเพอร์ซี ทำ 3 ประตูรวด เป็นแฮตทริกตั้งแต่เกมครึ่งแรกในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด นาที 2, 13 และ 33 เอาชนะแอสตัน วิลล่า ทีมเยือนที่ยังเสี่ยงโซนตกชั้น ขาดลอย 3-0 จบเกมมีคะแนนรวม 84 คะแนน ห่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 ถึง 16 คะแนน ในขณะที่คู่แข่งเหลือ 5 นัด เท่ากับคว้าแชมป์แน่นอนแล้ว
นัดนี้ปีศาจแดงส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงพิชิตแชมป์ทันที เพื่อไม่ให้เสียเวลาในแมตช์มันเดย์ไนต์ หลังจากแมนเชสเตอร์ซิตี้ คู่แข่งร่วมเมืองเพิ่งพ่ายท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในนัดออกไปเยือนเมื่อวันอาทิตย์ โดยแมนยูส่งเวย์น รูนีย์ คู่ฟานเพอร์ซี และมีไรอัน กิ๊กส์ ลงไปโชว์ฟอร์มเก๋า ประสานงานกับชินจิ คากาวะ อันโตนิโอ วาเลนเซีย และไมเคิล คาร์ริก ที่มีชื่อติดโผ 6 คนสุดท้ายนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ฤดูกาลนี้ด้วย เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โค้ชใหญ่แมนยู ให้สัมภาษณ์หลังเกมที่ทีมคว้าแชมป์ได้รวดเร็วในนัดที่ 34 ทั้งที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 4 นัด ว่า ปลาบปลื้มที่สุด ไม่สำคัญว่าคว้าแชมป์ได้เมื่อไหร่ ในเมื่อฟอร์มการเล่นคงเส้นคงวานั้นน่าทึ่ง และสุดยอดที่เป็นมาตลอด 20 กว่าปีนี้ เราทำได้อย่างที่คาดหวัง นัก เตะชุดนี้มีรุ่นใหม่อยู่มาก และยังเล่นได้ดีขึ้นไปอีก เราคาดหวังอย่างนั้น การได้แต้มมาแล้ว 84 คะแนนในฤดูกาลตอนนี้ เป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำได้มาก่อน อย่างราฟาเอลนั้นยอดมาก ส่วนฟิล โจนส์ ดูแววแล้วจะเป็นนักเตะยอดเยี่ยมได้ในอนาคต ในขณะที่เรามีนักรุ่นเก๋าอย่างไรอัน กิ๊กส์ ซึ่งสุดมหัศจรรย์ เราโชคดีที่มีเขาและพอล สโคลส์ สำหรับฟานเพอร์ซี่ ผู้ทำแฮตทริกในนัดนี้ เซอร์อเล็กซ์กล่าวว่า “นั่นเป็นประตูแห่งศตวรรษสำหรับผมที่ได้จากฟานเพอร์ซี่ มันมหัศจรรย์ เทคนิคการโหม่งลูกอย่างนั้น ใช้ศีรษะเหนือบอลในจังหวะที่พอดิบพอดี เป็นการทำประตูที่สวยงาม แม้การทำประตูของเขาจะหายไปช่วงหนึ่ง เขาก็กลับมาแจ่มอีก เขาสุดยอดมากในนัดนี้” การตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกในสนามโอลด์แทรฟฟอร์ดครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 4 ของสโมสร ต่อเนื่องจากปี 1999, 2002 และ 2009 ถือเป็นสถิติเหนือสนามอื่นๆ ส่วนสถิติของแมนยูที่ทิ้งแต้มห่างอันดับ 2 เคยทำไว้ดีที่สุดเมื่อฤดูกาล 1999-2000 ที่ห่าง 18 คะแนน ทั้งนี้หลังจบฤดูกาล แมนยูมีกำหนดยกทีมมาเยือนไทย ตามแผนการฉลอง 80 ปีบริษัทสิงห์ ผู้สนับสนุนสโมสร ในวันที่ 13 ก.ค.2556 ก่อนไปเยือนออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และฮ่องกง
เครดิต http://goo.gl/35abq
|