ชมไทยwww.chomthailand.com ติดต่อโฆษณา บทความ แนะนำการท่องเที่ยว IDLINE : akechomthai T. 089-780 1770 e-mail : chomthailand@gmail.com

Are You Come Here Alone ? วังเวียง Post by : Baitong_333 : 2008-06-15 15:28:35




Bookmark and Share

Are You Come Here Alone ? วังเวียง

Detail

Zoom ++ Click

Are You Come Here Alone ? วังเวียง

ดองไว้ 2-3 เดือน ถึงจะมีโอกาสได้เอามาเล่าสู่กันฟัง หวังว่าคงไม่ช้าเกินไปนะครับ
ผมเลือกเดินทางไปวังเวียงในช่วงปลายๆของเทศกาศสงกรานต์ (14-18/4/2551)
เพื่อเลี่ยงการแออัดของผู้คน

วันที่ 14/4/51
19.20 น.แต่งตัวออกจากบ้านแถมพกความมั่นใจเสียเต็มประดา เพราะคิดว่าเราเตรียมตัวมามีแล้ว
ตั๋วก็จองทางอินเตอร์เน็ต
บัตรผ่านแดนก็โทรมาทำแล้ว ซึ่งบัตรผ่านแดนเนี้ย
ฟลุ๊คมากๆเพราะตัดสินใจโทรหาพี่แจ๊คซึ่งรับทำบัตรผ่านแดน
ก็ได้ข้อมูลมาจากอินเนอร์แหระครับ
ผมก็ถามว่าจะไปลาวรถเที่ยว7.30น. จะทำบัครทันมั๊ย (ที่หนองคายเปิดทำตั้งแต่ 08.00-17.00) เขาบอกว่าทัน
ผมก็คิดว่าเขาจะทำยังไงหว่า พี่แจ็ คให้เอาเลขบัตรประชาชนมาแค่นั้น ที่เหลือพี่เขาจัดการเอง ค่าทำก็แค่
120 บาท
20.00 น.ถึงหมอชิตแหระ รถที่ผมจองไว้ออก 20.40 น. ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าไปรับตั๋วที่ไหน
ก็เดินไปหาเอา(มั่วไป)
เดินมาเจอบูทไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ก็เข้าไปถามว่ารับตั๋วที่ได้เลยมั๊ย เค้าบอกว่าจองทางไหน
ผมตอบอินเตอร์เน็ทครับ ที่รับจองแต่ทางโทรศัพท์นะ
เขาชี้ไปช่องข้างๆ ซึ่งผมก็พอมองเห็น บ.รถที่ผมจองไว้แหระ ก็ไปติดต่อให้รหัสจากอินเตอร์เน็ตเขาไป
ปรากฏว่าไม่มีครับ ผมมึนไปพักหนึ่ง
ป้าที่ขายตั๋วบอกว่าจองแล้วก็ต้องมาจ่ายเงินที่เขาอยู่ดี
ผมก็เลยโล่งใจเพราะนึกว่าหักเงินจากบัตรเครดิตผมไปแล้ว ก็เลยตัดสินใจซื้อตั๋วใหม่เลยแต่ไม่ช่าย
บ. 99 ขนส่งแล้วนะ เปลี่ยนไปซื้อของบารมีทัวร์ ราคา 468 บาท
21.47 น. รถออกแล้วเลทไปนิดแต่ไม่เป็นไร เพราะบารมีทัวร์ให้เราขึ้นรถของบุคราคัมม์ทัวร์แทน
แถมเบาะเป็นเบาะนวดอีก
ชอบเลยๆ โชคดีบนความโชคร้ายจริงๆ ตอนนั้นคิด สรุปเรื่องตั๋วนิดนึงครับ
ตกลงตั๋วใบแรกที่จองไว้เขาหักเงินจากบัตรเครดิตของผมไปแล้ว
วอนผู้เกี่ยวข้องด้วยครับ ตอนผมไปถามที่ช่องขายตั๊วแต่ละช่องก็โบ้ยกันไปโบ้ยกันมา
ไม่จัดแจ้งในจุดรับตั๋ว บุคลากรมีความรู้เรื่องอินเตอร์เน็ตต่ำมาก
จะพัฒนาองค์กรก็จะต้องพัฒนาบุคลากรด้วยนะคับ

วันที่ 15/4/51
07.00 น. ถึงขนส่งหนองคาย ผมเดินไปรับใบผ่านแดนชั่วคราว ที่บูทขายขนมในขนส่ง
หลังจากที่เมื่อวานได้โทรมาบอกพี่แจ็ค (พี่แจ็คเป็นคนรับจ้างทำบัตรผ่านแดนครับ
ผมได้เบอร์มาจากเวปหนึ่งจำไม่ได้ว่าเวปไหน)
เขาว่าให้ทำบัตรผ่านให้ด้วย เสียค่าทำบัตรไป 120 บาท จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วรถรอบ 07.30 น.
มุ่งสู่เวียงจันทร์
09.10 น. ผมถึงที่ขนส่งเวียงจันทร์ คิดในใจว่าเนี่ย อยู่ต่างประเทศแล้วเหรอว่ะ มีสารถีมากมาย
เข้ามาถามว่า ไปวังเวียงบ่ เหมือนเขารู้ว่าถ้ามีเป้ใบโตๆเนี่ยจุดมุ่งหมายอยู่วังเวียงทั้งนั้น
ผมบอกจุดหมายว่า
จะไปแลกเงินก็แล้วก็ไปวังเวียง สารถีเสนอราคามา 80000 กีบ ผมต่อเหลือ 40000 กีบ เพราะผมก็ศึกษาข้อมูล
ค่ารถไปที่นู้นไปที่นี่ของลาวก่อนมาเหมือนกัน จะมาหลอกกันเหรอไม่มีทาง 555 สุดท้ายตกลงราคากันที่
50000
กีบ
ผมแลกเงิน ทั้งหมด 1800 บาท แลกเงินเสร็จก็มีเสียงแซวจากสารถี ว่ารวยเลยมีเงินเป็นแสนเลยนะ
(1บาทเท่ากับ276กีบ)
กระเป๋าตังผมเนี่ยตุงเลย เพราะแบงค์หลายใบมาก
ผมเลือกไปวังเวียงด้วย รถVIP ที่จริงจากขนส่งเวียงจันทร์ก็มี แต่มันเป็นรถหวานเย็นอ่ะ ประมาณ เกือบ 4
ชั่วโมง
กว่าจะถึง ท่ารถไปวังเวียงของรถVIP อยู่แถวๆ หอศิลป์ของลาว ค่ารถก็ 20000 กีบ
ซื้อตั๋วเสร็จผมก็รีบหาข้าวกินก่อน
หิวชิบเป๋งเลย แต่มื้อแรกของผมคือเฝอครับ เพราะเดินหาข้าวแล้วไม่มีเลย รสชาติไม่เลวที่เดียว ราคาแค่
5000 กีบ
หม่ำเสร็จแล้วก็เดินกลับมาที่ท่ารถเพื่อรอรถออก
10.00 น. ล้อหมุนจากเวียงจันทร์สู่วังเวียง ระหว่างทาง มีวิว สวยๆให้เห็นตลอด
เสมือนดั่งภาพวาดตอนเด็กๆ
ที่มีภูเขา สายน้ำ และทุ่งนา รถจะจอดพักรถระหว่างทางประมาณ 10 นาที
13.30 น. ถึงเมืองในฝัน นามว่า \\\"วังเวียง\\\"
ออกเดินหาที่พักไปทั่วๆเมือง
ระหว่างหาที่พักก็เจอคนลาวมา
ขอสาดน้ำบ้าง เค้าก็ถามว่ามาจาก ประเทศไทยเหรอ ผมก็ตอบครับ ส่งเบยลาว ให้ผมอีก ผมก็นะ ยกซดซะหมดแก้ว
กว่าจะหลุดจากวงล้อมของเขาได้ก็เปียกเกือบทั้งตัวล่ะครับ ส่วนที่พักผมอ่ะ
อยากจะได้ที่มันแบบเห็นวิวด้วย
และสำคัญต้องถูกด้วย อิอิ ส่วนใหญ่มันจะเต็มหมดเลย เดินหาได้ซักพัก ก็ตัดสินใจพักที่ น้ำซอง รีสอร์ท
เป็นห้องที่ต้องใช้ห้องน้ำรวม จะดูวิวก็ต้องเดินมาแถวๆ ระเบียงด้านหลังเอา (คล้ายๆตึกแถว) ราคาก็ 20000
กีบ
ก็คิดว่าพักที่คืนแรกแล้วกัน คืนสองเดี๋ยวค่อยเปลี่ยนที่พัก
14.30 น. หลังจากเก็บสัมภาระแล้ว ก็เริ่มออกเดินเที่ยว และถ่ายรูป รอบๆเมือง
สังเกตุได้ว่าวังเวียงเนี่ย
ส่วนใหญ่จะมีแต่ฝรั่งเที่ยวซะส่วนใหญ่ จะมีคนไทยบ้างนิดหน่อย ผมก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ
16.00 น. หลังจากเดินซะเหนื่อย ผมมาพักนั่งตรงกระต๊อบ ข้างแม่น้ำซอง ซึ่งมีเครื่อมดื่มบริการด้วย
แถมวิวสุดสวยจากกระต๊อบมุมที่ผมนั่ง ผมเลยสั่งเบยลาวมาโดนซะหน่อย สนนราคา 10000 กีบ
ระหว่างนั่งมีเรือพายัก
พายผ่านหน้ามาเป็นช่วงๆ ตลอด ผมนั่งปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยๆ จนถึง 18.30 น. ก็ตัดสินใจกลับที่พัก
ไปอาบน้ำอาบท่าแล้ว ออกมาหาข้าวกิน
20.00 น. ผมปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ้มเลย คือผมอ่ะเข้าร้านอาหารอินเดีย แล้วเมนูเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย
ผมก็มองหาที่มันเป็นข้าวในเมนู ทำไมมันไม่มีเลยว่ะ มีแต่พวกแซนวิด พวกขนมปัง อ่านก็ไม่ค่อยออก
ไม่รู้มันคืออะไร
ก็เลยตัดสินใจเอานิ้วชี้ไปแล้วบอกเด็กเสริฟ์ว่าเอาอันนี้
ผมก็นึกว่ามันเป็นแกงอะไรซักอย่างเห็นมันสีเหลืองๆ
พร้อมกับข้าวสวย (ข้าวเจ้าภาษาลาว) พอเขามาเสริฟ์เท่านั้นแหละ ผมโครตจะอายตัวเองเลย ไอ้ที่ผมสั่งอ่ะ
มันคือข้าวหมกไก่อินเดีย คิดใจในว่าแล้วกูจะสั่งข้าวสวยเปล่ามาอีกทำไมว่ะ เขินครับเขิน
เลยจัดการเอามาคลุกรวมกัน
2 จานเลย จัดการซะเรียบไม่มีเหลือซักเม็ด เช็ดบิลมาก็ 30000 กีบ
21.00 น. ผมเริ่มเดินกลับเล่นๆในเมือง แล้วได้เจอฝรั่งคนนึง ผมก็เริ่มทักทายเขาก่อนว่า Are You Come
Here Alone
เขาก็ตอบว่าเขามาคนเดียว เธอชื่อ Marusa เป็นแหม่มจากสโลวีเนีย อายุ 23 ปี ก็เกือบเท่าๆกันกับผม
ผมถามต่อว่าจะไปไหน เธอตอบไม่รู้ เธอก็ถามผมกลับมาแล้วคุณจะไปไหน ผมก็ตอบไม่รู้เหมือนกัน
เราเลยได้เดินเล่นด้วยกันคุยกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง
เดินเล่นได้ซักพักเราก็ตัดสินใจหาที่นั่งชมวิวสวยๆ
ผมก็เลยชวนไปเก็ตเฮาส์ผมไปนั่งที่ระเบียง เธอเห็นที่นั่งชมวิวแล้ว เธอบอกว่าไปที่เกตเฮาส์เธอดีกว่า
อยู่ห่างจากเกตเฮาส์ผมประมาณ 100 เมตร ผมก็เลยเดินไปเกตเฮาส์ของ Marusa พอเห็นเกตเฮาส์ของ Marusa
ผมชอบมากถูกใจเลย เป็นบังกะโล ห้องน้ำในตัว มีระเบียงส่วนตัว ภายนอกห้อง เปิดหน้าต่างมาก็เห็นวิวเลย
ผมนั่งคุยกับ Marusa ตรงส่วนระเบียงภายนอกห้อง เธอก็บอกว่าพรุ้งนี้เธอก็เช็คเอาท์ ผมจะเช่าต่อมั๊ย
เดี๋ยวเธอจะไปบอกเจ้าของให้ในตอนเช้า ผมเท่ารีบบอกเอาเลย ราคาก็ แค่ 18000 กีบ
ถูกกว่าที่ผมนอนคืนแรกด้วย
แถมวิวสวยๆอย่างงี้ใครจะไม่เอา เราคุยกันเรื่องประเทศไทย เธอก็บอกว่าก่อนมาที่วังเวียง เธอก็ไปไทยมา
ไปเชียงใหม่
พิษณุโลก กาญจนบุรี แล้วก็กรุงเทพ เธอบอกว่าประเทศเราสวยมากๆ เธอชอบประเทศไทยจริง ตอนนั้นผมภูมิใจ
ในความเป็นไทยจริงๆ ยิ้มหน้าบานเลย แถมยังบอกว่ากระเทยไทยสวยมากๆ หุหุหุ
เราคุยกันเรื่องทั่วไปๆหลายเรื่อง
เหมือนคนคุยกันถูกคอ เธอก็ฟังคนตรีแนวเดียวกับผม เธอชอบวง System of A Down เหมือนกับผม
ประมาณ 24.00 น. ผมเลยขอตัวกลับไปนอนก่อน ราตรีสวัสดิ์สำหรับคืนแรกนะวังเวียง

วันที่ 16/4/51
09.00 น. ผมเพิ่งลุกจากเตียงเพราะกะว่าวันนี้ขอตื่นสายๆหน่อยแล้วกัน พรุ้งนี้ค่อยตื่นเช้าไปถ่ายรูป
เดินออกมาจากเกตเฮาส์เพื่อหาไรกิน บังอัญเจอ Marusa อีก เธอนั่งกินข้าวเช้าร้านร้านเกตเฮาส์ผมเลย
ก็เลยได้นั่งกินข้าว
เช้าด้วยกัน
10.00 น. ผมเก็บสัมภาระย้ายไปเก็ตเฮาส์ที่จะเช่าต่อของ Marusa แล้วก็เพิ่งรู้ว่าเจ้าของเก็ตเฮาส์เป็น
ฝรั่งจากนอร์เวย์ มาอยู่ลาวได้ 4ปีแล้วกับภรรยา Marusa จะเดินทางไปเวียงจันทร์ต่อ
เลยร่ำรากันผมบอกว่าให้เธอโชคดี
เธอบอกว่าเช่นกัน
12.00 น. ออกเดินทางด้วยจักรยานไปเที่ยวตาม สถานที่ต่างๆที่วางแผนไว้ ที่แรกคือ ถ้ำจัง
ซึ่งมีสะพานสีส้ม
เป็นเหมือนใครมาวังเวียงแล้วไม่ได้มาที่นี่เหมือนมาไม่ถึง เสียค่าเข้าชม 15000 กีบ สำหรับชาวต่างชาติ
ภายในถ้ำจังนั้น
มีหินงอก หินย้อย ที่สวยงามอยู่มากมาย มีจุดชมวิวภายในถ้ำอีกด้วย จุดหมายต่อไปคือถ้ำปูคำ
แต่ปั่นจักรยาน

ไปเจอถ้ำ Pha Khamcave นึกว่านี่คือถ้ำปูคำ แต่ไม่ช่ายอ่ะ เลยลองเดินขึ้นเขาไปดู เสียค่าเข้าอีก 10000
กีบ
พร้อมกับให้ไฟส่องมาอีกหนึ่งอัน ทางขึ้นก็ชันสมควร ปากทางเข้าถ้ำก็เล็กนิดเดียว
แถมมีผมคนเดียวที่เดินขึ้นไปเที่ยว
ผมเดินเข้าถ้ำไปได้ประมาณ 3 ก้าวแล้วคิดว่ากลับดีกว่าว่ะ โครตน่ากลัวเลยทางก็เล็กและแคบ แถมอันตรายอีก
มองก็แทบจะไม่เห็น เดินกลับลงเขามาไปครึ่งทาง แล้วเจอฝรั่งคนนึงถามผมเป็นภาษาลาวว่า
\\\"อีกไกลบ่\\\" ผมงงเลย
ผมก็ตอบว่าไม่ไกล ผมเลยตัดสินใจกลับหลังหันเดินขึ้นไปให้ถ้ำอีกรอบ เพราะคราวนี้มีเพื่อนแระ
ภายในถ้ำนั้นอย่างที่บอกไปในตอนแรกว่า อันครายมาก ตอนเดินเนี่ยลื่นเกือบตกเหวไปหลายรอบเหมือนกัน
เกือบเป็นผีเฝ้าถ้ำที่ลาวแล้ว
ในถ้ำนั้นก็มีหินง้อก หินย้อย ที่รูปร่างแปลกๆตาอยู่มากเหมือนกัน
15.30 น. ลงมาจากถ้ำ Pha Khamcave ฝรั่งคนที่ผมเจอคนนี้ ชื่อคริตเตียน เป็นชาวเยอรมัน อายุ 24 ปี
เขาถามผมวาจะไปไหนต่อ ผมบอกจะไปถ้ำปูคำ เขาก็บอกว่าจะไปเหมือนกัน คือคริตเตียนเช่ามอเตอร์ไซด์มา
ส่วนผมนั่น
ปั่นจักรยาน คริตเตียนพูดว่าเดี๋ยวเขาจะขับช้าๆ ผมจะได้ตามทัน เส้นทางที่ผมปั่นไปถ้ำปูคำนั้น
ถนนเป็นเนินเขา
อยู่บ้าง ขนาบข้างไปด้วยทุ่งนาและมีภูเขาล้อมรอบ
16.00 น. ถึงถ้ำปูคำแล้วคับ เสียค่าเข้าอีกตามเคย เข้ามาจะเจอสระน้ำสีมรกตก่อนเลย
และจะมีต้นไม้กับเถาวัลย์
ไว้ให้กระโดดลงเล่นน้ำกัน ผมเห็นเด็กๆและวัยรุ่นกำลังเล่นน้ำกับสนุกเชียว
เดินเข้าถ้ำไปก็จะเจอพระพุทธรูปประดิษฐิ์สถานอยู่
ถ้ำนี้คล้ายถ้ำพระยานครที่บ้านเรา คือจะมีแสงที่ส่องลงมาตามช่องเขาส่องตรงพระพุทธรูป
เดินเข้าไปอีกหน่อยก็จะมีหินงอก หินย้อย
แต่ที่แปลกกว่าที่อื่นคือ ที่นี่นั้นมีหยดน้ำเกาะอยู่ตามหินนั้นเป็นจำนวนมาก เรียกว่าชุ่มเลยที่เดียว
ขากลับลงมานั้นคริตเตียน
เขาขอเล่นน้ำในสระซะหน่อย ผมบอกได้ๆเดี๋ยวผมคอยถ่ายรูปให้
17.30 น. เริ่มปั่นจักรยานกลับเก็ตเฮาส์ แต่ขากลับนั้น แทบจะไม่มีแรงปั่นแล้ว ยิ่งเจอเนินนะ
ผมลงจูงจักรยานเลย
คริตเตียนเห็นผมเหงื่อทั่วเลย เขาบอกว่าจะให้เขาช่วยยังไงดี
ผมเลยบอกงั้นผมนั่งมอเตอร์ไซด์แล้วหันหลังชนกับเขาและแบกจักรยาน
ไว้บนตักผมแล้วกัน ทุลักทุเลพอสมควร แต่ก็ดีกว่าปั่นเองว่ะ
ชาวบ้านลูกเด็กเล็กแดงมองผมกับคริตเตียนแล้วแอบขำๆกันหมดเลย
ผมกับคริตเตียนแยกกันตรงเก็ตเฮาส์ของเขา ประทับใจจริงๆกับไอ้ฝรั่งอั่งหม้อคนนี้
20.00 น. หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จ ก็ออกหาข้าวกิน วันนี้สั่งต้มยำปลา
ชิมแล้วรู้สึกว่าบ้านเรารสจะจัดกว่า
ไม่ถูกปากเท่าไรนักสำหรับต้มยำแบบลาว กินเสร็จก็ออกเดินเก็บบรรยากาศในเมืองยามค่ำคืนเป็นคืนสุดท้าย
22.00 น. นอนแล้วคับวันนี้ หลังเหน็ดเหนื่อยจากการปั่นจักรยาน (เหงื่อออกเป็นลิตรเลย)

วันที่ 17/4/51
06.30 น. ตื่นมากะจะมาเก็บบรรยาศตอนเช้าๆแต่ไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิดย์ขึ้นไม่รอผมตื่นหว่า
นั่งทานข้าวเช้าในตัวเมือง ก็จะพบเด็กนักเรียนปั่นจักรยานไปโรงเรียนเป็นกลุ่มๆ จำนวนมาก
นั่งดูอยู่ซักพัก
ผมจึงกลับเก็ตเฮาส์อาบน้ำเตรียมเดินทางกลับ
10.00 น. ขึ้นรถจากวังเวียงกลับเวียงจันทร์ คราวนี้ได้นั่งคู่กับสาวฮ่องกงกับ หุหุ เธอชื่อเวนดี้ อายุ
24 ปี
คุยกันนิดหน่อยตามมารยาคับ
14.00 น. ถึงเวียงจันทร์แหระ ออกเดินหาข้าวกินก่อนเลย ผมหิวๆ แล้วค่อยไปขนส่ง ถึงขนส่งและได้รถรอบ
15.30 น.
18.30 น. ถึงประเทศบ้านเกิดแล้วครับ ซื้อตั๋วกลับกรุงเทพ รอบ 21.30 น.
ผมเพื่อเวลาไว้เดินเที่ยวริมน้ำโขง
ยามกลางคืนด้วย เดินเลียบไปตามถนนริมโขงนั้นจะพบร้านอาหารมากมาย เช่นร้านหมูกระทะ ร้านนมสด
ตั้งอยู่เรียงเรียง
ขนาบข้างลำน้ำ
21.30 น. ออกจากขนส่งหนองคาย กลับบ้านแล้วครับ ขากลับมีที่จบไม่ประทับใจอยู่เรื่องนึงครับ
คึอผมได้ซื้อตั๋วของบ.ศรีเชียงใหม่ทัวร์ ตอนแรกเขาบอกว่าเป็นรถVIP แต่พอรถมาเป็นรถเสริมครับ
เหมือนกับไปเหมารถมา
แล้วมีผู้โดยสารบ้างคนต้องนั่งเก้าอี้กลมระหว่างทางเดิน แต่มันคิดราคาเท่ากัน โครตเอาเปรียบกันเลย
ทำได้แต่ทำใจเพราะ
ทำไรไม่ได้ จึงเอามาบอกเพื่อนๆให้รับรู้กัน ผมก็ซื้อตั๋วผิดเองด้วย นึกว่าตอนแรกขามา มาบ.ศรีเชียงใหม่
แต่ขามาจริงๆ มากับ
บ.บุษราคัมทัวร์ ซึ่งเป็น VIP มีเบาะนวดไฟฟ้าด้วย เซงเลย
แต่ไม่เป็นไรครับผมคิดว่าไปเที่ยวมามีความสุขมาหลายวันแหระ
อย่าไปคิดให้มันรกสมอง เพราะกลับไปก็ต้องเจอเรื่องมากมายในชีวิตอีก ปล่อยวางซะ

-ขอบคุณธรรมชาติสวยๆบนโลกกลมๆใบนี้ ที่ที่ทำให้ผมมีแรงเดินทาง และมีจุดหมายในชีวิตครับ

-ขอบคุณตัวเองที่กล้าไปคนเดียว 555 บายครับเจอกันทริปหน้า

m_Baitong_333.jpg Baitong_333 [2008-06-15 15:28:35] mail not show 124.121.118.163

[ 1 ] [ 2 ] 3


Comment : 101

ตอบnew
ขึ้นรถไปวังเวียงตรงใกล้หอศิลป์ลาวอ่ะคับ รถVIPคับ
ถ้าขึ้นจากจุดที่ลงรถที่นั่งมาจากหนองคาย มันคือขนส่งสายเหนือ
จะมีแต่รถร้อนอ่ะ แล้วถึงช้าด้วย

m_Baitong_333.jpg Baitong_333 [2008-06-17 21:09:16] mail not show 124.122.206.169

Comment : 102

ภาพสวยมากมาย เห็นแล้วอยากไป ที่ถูกใจที่สุดคือโดดน้ำเล่นนี่ละ

m_Kagii.jpg Kagii [2008-06-18 11:38:04] mail not show 203.155.135.100

Comment : 103

ขอเชิญเพื่อนๆที่สนใจไปเที่ยว ศึกษาธรรมชาติกันที่
เขตรักษาพันธุ์เขาอ่างฤาไน หน่วยพิทักษ์ป่าทับกระบก
ในวันที่1-3/8/51 ออกเดินทางตอนเย็นๆของวันที่ 1/8/51
คืนแรกนอนที่หน่วยหลุมจังหวัด ตอนเช้าเดินทาง ด้วยเท้า เข้าหน่วยทับกระบก ระยะทาง12 กิโล
มีใครสนใจไปด้วยกันมั๊ย ถ้ามีติดต่อ มายังBaitong_333@hotmail.com
ค่ารถค่ากิน ทุกอย่างหารเท่าๆกันหมด
ติดต่อมาก่อน13/7/51นะ เพราะต้องทำหนังสือเข้าก่อน 15 วัน

m_Baitong_333.jpg Baitong_333 [2008-06-21 17:42:14] mail not show 124.121.114.199

Comment : 104

เสียดายจังเลยไม่ได้ไปด้วย ติดไปเขานมนางเสียแล้ว

มีทริปดีๆ แบบนี้ก็มาชวนกันอีกนะ Baitong

m_ake no.1.jpg ake no.1 [2008-06-22 09:53:26] 124.121.135.120

Comment : 105

โหย ได้ใจจิงๆ ไปวังเวียงคนเดียว ยกนิ้วโป้งให้เลยนาย สุดยอดดดดดด

ว่าแล้วก้อคิดถึงวังเวียงจัง

Post by : กุ้งฝอย [2009-05-07 17:01:34] 124.120.136.212

Comment : 106

ชอบๆๆ แฟนคัลเจ้เก่งที่สุดในโลก..ไปวังเวียงคยเดียวได้ด้วย
ภาพสวยมาก เห็นวิว แล้ว ชวนให้อยากไปเร็วๆนี้จัง
..ว่าแต่มีเพื่อนเป็นฝรั่งผู้ชาย ทำไมไม่รีบแนะนำให้เจ้ อิอิอิ

m_57c858b.jpg miwmiw. [2009-05-07 18:01:28] mail not show 10.7.51.253

Comment : 107

Comment : 105
ความระห่ำ มันครอบนำจิตใจในตอนนั้นอ่ะครับ 5555

Comment : 106
รีบไปเลยเจ๊แถวนั้นฝรั่งบึม+!!!!!!

m_Baitong_333.jpg Baitong_333 [2009-05-12 08:01:27] mail not show 61.91.67.146

Comment : 108

ไปคนเดียวจะอันตรายมั้ยอ่ะ อยากไปมั่งจัง..อโลนๆ เนี่ย

m_i_dinlampang.jpg i_dinlampang [2009-05-12 08:41:17] 118.172.104.10

Comment : 109

เข้ามาดูอีกรอบ เขียนการเดินทางต่างๆได้ละเอียดมาก ๆ

m_740ef53.jpg ake_chomthai [2009-05-12 08:53:00] 158.108.66.250

Comment : 110

ชอบกระทู้นี้จัง เขียนเล่าเรื่องราวได้ละเอียดมากๆ
อยากไปๆๆๆ รอนันกะเป็ด พาไปอยู่ - -*

m_13bfa61.jpg Patty00 [2009-05-12 12:04:21] mail not show 203.150.235.211

[ 1 ] [ 2 ] 3

Bookmark and Share

Reply

 



Board v.0.12 beta :: Powered by : PacketLove.com | ГСєทУ SEO | electric cigarette | аЗзєдซตмКУаГзЁГЩป | аЗзєКУаГзЁГЩป | №СиงКБТёФ| КตФปСЇฐТ№ dentist bangkok | implant bangkok | veneer bangkok | implant thailand | dentist sukhumvit | dental sukhumvit | fast braces bangkok | Sell-Factory-Samutsakorn | Huahin Resort | Pool Villa Huahin |

© 2543-2562-CHOMTHAILAND, All rights reserved.