Detail

ทาง ททท.อยุธยา ส่งเทียบเชิญให้ทางเว็บเราไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ทาง ททท.
อยากจะส่งเสริมและอนุรักษ์ นั่นก็คือ ตลาดลาดชะโด (ชื่อแปลกใช่ม๊า เดี๋ยวบอกที่มาทีหลังคร๊าบ) อ.ผักไห่


ด้วยที่เป็นทริปเร่งด่วน ต้องค้าง 1 คืน ออกเดินทางเสาร์สายๆ แถมมีงานวันเสาร์ค่ำด้วย
คิดอยู่หลายตลบ สุดท้ายก็ไปเช้าเย็นกลับล่ะกัน (อยากรู้เหมือนกันว่าที่เที่ยวใหม่มันจะเป็นไง)

Comment : 51

โรงเรียนที่นี่น่าอยู่...คุณครูก็น่าจะใจดีทุกคน...บรรยากาศน่าวิ่งเล่นซุกซน...น้องๆทุกคนต้องชอบไปโรงเร
ียน แน่ๆ

Comment : 52

มีห้องนิทรรศการในโรงเรียนด้วย

Comment : 53

โรงเรียนนี้น่าอยู่จริงๆนะเนี่ย ชอบๆ

Comment : 54

ห้องประชุมใหญ่ของโรงเรียน ไว้ทำกิจกรรม

Comment : 55

ปล. เจ๊ป้อม ใจคอจะให้พีเค ดอลลี่หลอนทุกตำบลเหรอ 555 ทำเป็นตัวปลาช่อนแม่ลา ไปขายที่สิงห์บุรีด้วยดิ
55555

กู๊ด ไอเดีย เลยพิชชี่ อิอิอิ

ภาพสวย รอดูต่อน่ะ

Comment : 56

มีสนามเด็กเล่นที่บรรยากาศดีอีกด้วย คนไหนเป็นครู มาบรรจุที่นี่ไหมคร๊าบบบ

Comment : 57

โรงเรียนเขาดีจริงครับ โดนใจ

...โรงเรียนลาดชะโด อยู่ใกล้กับชุมชนและตลาดลาดชะโด เปิดสอนถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 เท่านั้น
ดังนั้นการศึกษาต่อของคนในชุมชนตลาดลาดชะโดจึงเป็นการเดินทางเข้าไปศึกษาต่อยังตัวจังหวัดอยุธยาในช่วงที่
ยังไม่มีถนน แต่เมื่อมีการสร้างถนนแล้ว คนในชุมชนนิยมส่งลูกหลานไปเรียนต่อที่จังหวัดสุพรรณบุรี
เนื่องจากมีระยะทางใกล้กว่าการเดินทางเข้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
และในการเรียนต่อระดับสูงขึ้นอย่างเช่นระดับอุดมศึกษานิยมเดินทางไปศึกษาที่กรุงเทพ
มีหลายครอบครัวที่ส่งบุตรหลานไปเรียนต่อในกรุงเทพ และนั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้คนในตลาดจึงมีน้อย
เนื่องจากหลายคนหลังเรียนจบแล้วก็ประกอบอาชีพอยู่ในกรุงเทพ
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประจวบกับตลาดเริ่มซบเซาลง

Comment : 58

ด้านหน้าโรงเรียน มีท่าเรือ และศาลาริมน้ำให้มานั่งพักผ่อนหย่อนใจ เลี้ยงปลาก็ได้นะ

Comment : 59

สะพานนี้นี่เอง ที่น่าจะเป็น \"สะพานรักข้ามคลอง\"


พามาข้ามซะนะจะได้สมหวังๆ หุหุ

Comment : 60

ความเรียบง่าย ธรรมดาของที่นี่ คือ ความพิเศษสำหรับผม

Comment : 61

เราเดินย้อนกลับเข้าตลาดอีกครั้ง เพื่อไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นขึ้นชื่อของที่นี่

Comment : 62

ร้านคุณลี เตี๋ยวหมูตุ๋น...ขอบอกว่า อร่อยจริง ไม่ต้องปรุงครับ ชามละ 15 บาท..พิมไปน้ำลายไหลไป

Comment : 63

มีน้องชมไทยตามมาสมทบอีก 3 หน่อ...ปอม น้องนา ต้น

Comment : 64

โซ้ยไปแป๊บนึง นึกขึ้นได้ เลยเก็บรูปมาฝากก่อนเกลี้ยงชาม หุหุหุ

Comment : 65

บ่าย 3 แล้วต้องทำเวลากันหน่อย อิ่มแล้วก็เดินต่ออีกนิดนึง

อาคารบ้านเรือนที่นี่สมแล้วที่เป็นตลาดที่ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ของสมาคมสถาปนิกสยามฯ

Comment : 66

มีขายเสื้อเหมือนกานนน ตัวละ 99

Comment : 67

อ้าววว หวัดดีลุง จะไปไหนครับบบบ

Comment : 68

ได้เวลาต้องไปที่อื่นแล้ว มีเวลาจะกลับมาอีกแน่นอน เพราะทริปนี้มัวแต่ถ่ายรูป
ไม่ค่อยได้เดินชิมนู่นชิมนี่ แหะๆๆ

Comment : 69

...ให้ดูโฉมหน้าไกด์น้อย น้องนามิ จะขึ้น ม.1 น้องเขาไปโตที่ญี่ปุ่นมาเกือบ 10 ปี แล้วย้ายมาอยู่ที่นี่
ภาษาไทยถือว่าฟังรู้เรื่อง โอเคเลย น้องมีความกระตือลือล้นมากๆในการอธิบายสิ่งต่างๆ
ถือว่าใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์จริงๆเลย เป็นตัวอย่างที่ดีเลย

Comment : 70

ก่อนที่ทาง ททท.จะพาเราไปที่โฮมสเตย์คลองรางจรเข้ ก็พาไปแวะบ้านขุนพิทักษ์
ซึ่งหลายคนรู้กันดีว่าที่นี่มีคนเคยเห็นวิญญาณหรือผีนั่นเอง...กึ๋ยๆๆ

Comment : 71

ยังดีที่พามากลางวันนะครับ 55555 เลยไม่อะไรมาก...

....สำหรับ "บ้านขุนพิทักษ์” หรือบ้านเขียว
ปัจจุบันอยู่ในความดูแลบนที่ดินราชพัสดุของกรมธนารักษ์ สภาพภายในบ้านพบว่าชั้นล่างมีห้องโถงใหญ่ 1 ห้อง
ในห้องโถงมีตู้ไม้สัก 3 ใบ ห้องเล็ก 2 ห้องและห้องใต้บันไดอีก 1 ห้อง
โดยห้องใกล้ระเบียงหลังบ้านมีตู้เหล็กสูง 1 เมตร ส่วนชั้นบนมีห้องโถง 1 ห้อง ห้องเล็ก 3 ห้อง
และห้องซอยด้านหลังอีก 1 ห้อง ในห้องเล็กที่ใกล้กับทางขึ้น มีห้องแยกออกไป
เป็นห้องที่ใช้ประตูเดียวกับห้องแรก ภายในห้องแยกพบห่วงเหล็กเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 นิ้ว
สันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเป็นห้องที่ใช้กักขังทาส พื้นบ้านทั้งหลังมีฝุ่นปกคลุม
หน้าต่างและประตูใช้กลอนไม้แบบโบราณ ด้านหน้าใกล้ริมน้ำมีสะพานไม้เชื่อมไปที่ศาลาใหญ่
และเรือนขนาดเล็กเข้าใจว่าน่าจะเป็นเรือนพักของคนรับใช้ ผู้ใกล้ชิดกับคนในบ้านขุนพิทักษ์ เล่าให้ฟังว่า
สมัยที่ตนยังเป็นเด็ก เคยพายเรือผ่านบ้านหลังดังกล่าว พบในบ้านของขุนพิทักษ์มีบริวารอาศัยอยู่จำนวนมาก
เมื่อขุนพิทักษ์เสียชีวิตลง ลูกหลานต่างทยอยย้ายออกจากบ้านหลังดังกล่าว จนกลายเป็นบ้านร้างในที่สุด
ท่านขุนยังเป็นเจ้าของเรือสินค้าสองชั้นที่เรียกว่า เรือเขียว บ้านหลังดังกล่าวก็เป็นบ้านสีเขียว
ใหญ่โตที่สุดในละแวกนั้น ท่านขุนขุนพิทักษ์มีบุตรทั้งหมด 7 คนเป็นลูกสาว 6 คน ลูกชาย 1 คน
นอกจากนั้นยังมีลูกหลานอีกหลายคน โดยบ้านหลังนี้เชื่อว่ามีอายุเกินกว่า 100 ปี เจ้าของบ้านคือขุนพิทักษ์
บริหาร หรือ พึ่ง มิลินทวณิช เนื้อที่บ้านทั้งหมดมี 1 ไร่ 72 ตารางวา ขุนพิทักษ์
ดำรงตำแหน่งนายแขวงของตำบลเสนาใหญ่หรืออำเภอผักไห่ในปัจจุบัน ต่อมานางจ่าง มิลินทวณิช
ภรรยายกให้หลวงเมื่อ พ.ศ.2505 เพื่อให้เป็นเรือนรับรองแขกบ้านแขกเมือง
เมื่อบ้านหลังดังกล่าวไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง

Comment : 72

.....บ้านหลังนี้เป็นบ้านร้าง วันหนึ่งมีชาวบ้านพายเรือผ่านมา
เห็นมีผู้หญิงอยู่บนเรือนแต่งชุดโบราณสมัย ร.5
.....เคยมีคนมาลองของที่บ้านหลังนี้ก็เจอดีกันทุกคน จนต้องมาขอขมากราบไหว้กัน


...ขนาดกลางวันยังโหวงๆเลย 555

Comment : 73

แต่มีข่าวเมื่อปลายปีที่แล้ว ว่าทางอยุธยาจะฟื้นฟู เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยว....ยังไงก็ได้
แต่อย่าเปิดเป็นโฮมสเตย์ล่ะกัน จึ๋ยๆๆๆ

Comment : 74

...ตอนทำรูปนี้ ตกใจอย่างแรงจริงๆ พอเพ่งๆดู อ่ออออ เฮ้ออออ มานะนี่เอง ไปยืนไรตรงน้านนนนนนน 555


(ยิ่งทำรูปตอนกลางคืนอยู่ )

Comment : 75

ไม่อยากนึกว่ากลางคืนจะเสียววาบแค่ไหน

Comment : 76

ว่าแล้วก็ขอขมา แล้วไปดีกว่า ฟิ้ววววววววววว

Comment : 77

ขากลับ รถของทาง ททท. มารับกลับ เพื่อไปที่ร้าน Coffee Today จากนั้นเราก็ขับตามกันไปที่
โฮมสเตย์คลองรางจรเข้

Comment : 78

เรามาถึงก็เย็นพอสมควรแล้ว พี่ดาวเรือง เจ้าของโฮมสเตย์มาต้อนรับและพาล่องเรือด้วยตัวเอง

...โฮมสเตย์คลองรางจรเข้ ณ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เป็นโฮมสเตย์อีกแห่งหนึ่งที่ชาวชุมชนยังคงรักษาวิถีชีวิตตามแบบฉบับไทยแท้เอาไว้
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบวิถีชีวิตและความเป็นอยู่แบบไทยๆ
ที่นี่พร้อมต้อนรับการมาพักอาศัยของคุณทุกเวลา

...ตำรานอกห้องเรียน ที่ให้ทั้งความรู้และประสบการณ์ที่ดี
คุณดาวเรือง ฤกษ์บุบผา หนึ่งในสมาชิกธุรกิจโฮมสเตย์คลองรางจรเข้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
มีอาชีพหลักเป็นแม่บ้าน ดูแลครอบครัว ส่วน จ.ส.ต.เริงไชย สามีของคุณดาวเรืองมีอาชีพรับราชการทหาร
แนวคิดในการทำธุรกิจโฮมสเตย์ของทั้งคู่เกิดจากความต้องการพัฒนาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติในชุมชนของตนเองคุณ
ดาวเรืองเล่าว่า แต่เดิมคลองรางจรเข้จะมีผักตบชวาเยอะมาก และไม่มีใครใช้ประโยชน์จากเส้นทางนี้
คนส่วนใหญ่จะใช้เส้นทางถนนกันหมด ภายในคลองจึงเต็มไปด้วยผักตบชวาซึ่งขึ้นรกทุกปี

...สามีของคุณดาวเรืองซึ่งเมื่อก่อนทำงานอยู่ที่ท่าเรือคลองเตย พอได้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน
เห็นสภาพคลองรกไม่น่าดู ก็อยากจะพัฒนาคลองให้สะอาด เขามองว่าธรรมชาติบริเวณนี้ยังอุดมสมบูรณ์
จึงอยากพัฒนาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ดูดี เลยชักชวนชาวบ้านให้ช่วยกันพัฒนาคลอง พอทำไปได้สักระยะหนึ่ง
ก็มีความคิดอยากจะทำให้ชุมชนแห่งนี้เป็นโฮมสเตย์สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว
เพราะชาวบ้านที่นี่ยังคงใช้วิถีชีวิตและความเป็นอยู่แบบเดิมๆ มีการตักบาตรทางน้ำ
การออกหาปลานำมาทำเป็นอาหาร ฯลฯ
ซึ่งจะเป็นจุดดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

...คุณดาวเรืองจึงชักชวนชาวบ้านในพื้นที่เดียวกันมาร่วมจัดตั้งโฮมสเตย์ของชุมชน…โฮมสเตย์คลองรางจรเข้
โดยเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2545
ปัจจุบันมีชาวบ้านเข้าร่วมเป็นสมาชิกให้บริการโฮมสเตย์ทั้งหมด 8 หลังคาเรือน

...รักษาวัฒนธรรมแบบเดิม ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา
วัฒนธรรมและประเพณีเก่าแก่อันงดงามของคนสมัยก่อน ซึ่งคนรุ่นต่อมาได้สืบสานและรักษาไว้
ทำให้ผู้ที่ได้มาสัมผัสนึกย้อนกลับไปในอดีตที่คนไทยส่วนใหญ่จะใช้วัดเป็นศูนย์รวมในการทำกิจกรรมต่างๆ
และเป็นที่พึ่งทางใจ คุณดาวเรืองกล่าวว่า ชาวชุมชนคลองรางจรเข้ในปัจจุบัน
ก็ยังคงรักษาวัฒนธรรมและประเพณีแบบเก่าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการไปไหว้พระที่วัด
การใช้ชีวิตอยู่กับท้องทุ่งตามวิถีชนบทไทย“เรายังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบเดิมๆ เอาไว้
เมื่อก่อนจะมีทั้งเรือขายก๋วยเตี๋ยว เรือขายกาแฟ เรือขายข้าวโพดคั่ว แต่ก็หายไปหมด
ตอนนี้ก็เริ่มมีให้เห็นบ้างแล้ว มีแม่บ้านพายเรือขายขนม
เพราะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาพักผ่อนกันเยอะ
ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะมาจากยุโรปและออสเตรเลียคนพวกนี้เขาจะชอบวัฒนธรรมและประเพณีของบ้
านเรา เวลาที่เขาทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน เขาจะสนุกและมีความสุขมาก”

...จัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวัฒนธรรมชนบท
การวางแผนกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยว คุณดาวเรืองกล่าวว่า เธอจะเป็นผู้กำหนดกิจกรรมขึ้นมาเองทั้งหมด
ก่อนเดินทางนักท่องเที่ยวจะทราบว่า เขาจะเดินทางไปทำอะไร ที่ไหน เวลาใด
โดยดูจากตารางเวลาที่เธอกำหนดขึ้น

...กิจกรรมหลักของโฮมสเตย์คลองรางจรเข้ คือการล่องเรือชมธรรมชาติสองฝั่งคลอง ระยะทางประมาณ7-8 กิโลเมตร
เพื่อดูวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ทำนา หาปลา ดูพืชน้ำนานาชนิด เช่น ผักกระเฉด ผักบุ้ง กระจับ
ฯลฯดูบ้านทรงไทย ดูรังนกกระจาบ ไหว้พระที่วัด
พอตกค่ำก็จัดให้นักท่องเที่ยวรับประทานอาหารเย็นร่วมกับเจ้าของบ้าน และสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน
บางครั้งก็จัดให้มีกิจกรรมรำไทยสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมด้วย

...คุณดาวเรืองกำหนดอัตราค่าบริการสำหรับการพัก 1 คืน รวมอาหารสองมื้อ สำหรับคนไทย 500
บาทและสำหรับชาวต่างชาติ 700 บาท คุณดาวเรืองให้ความเห็นว่า
เหตุที่ต้องคิดค่าบริการชาวต่างชาติสูงกว่าคนไทย เพราะต้องให้การดูแลชาวต่างชาติมากเป็นพิเศษ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินหรือที่พัก สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเรียนทำอาหารไทย
คุณดาวเรืองก็จะจัดคนมาสอนให้ โดยคิดค่าบริการไม่แพงจนเกินไป

...ดึงชาวบ้านเป็นกำลังเสริม เพิ่มเติมรายได้
ปกติชาวชุมชนคลองรางจรเข้ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพทำนา ปลูกพืชไร่ พอหมดหน้าทำนา ก็ต้องหาอาชีพอื่นทำ
เพื่อหารายได้เพิ่มเติม เมื่อมีโฮมสเตย์เกิดขึ้น ทางชุมชนจึงคิดช่วยเหลือให้ชาวบ้านมีงานทำ
โดยเปิดสถานที่นวดแผนไทย
และให้ชาวบ้านเป็นผู้นวดแผนไทยให้กับนักท่องเที่ยว“เราพยายามดึงชาวบ้านในละแวกนี้มาร่วมงานด้วย
เพื่อเป็นช่องทางในการสร้างรายหนึ่ง ซึ่งตัวพี่เองยอมรับว่าไม่มีความรู้
หรือความสามารถในการจัดการและการวางแผนเลย ก็อาศัยการเรียนรู้แบบถูกๆ ผิดๆ ไปก่อน แล้วก็ค่อยๆ
แก้ไขกันไป หากรู้สึกว่าสิ่งไหนบกพร่อง ก็จะรีบปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น

ที่มา : www.ismed.or.th

Comment : 79

ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม นี่เลยครับ

คุณดาวเรือง - จ.ส.ต. เริงไชย ฤกษ์บุบผา
26 หมู่ 10 ต.บ้านโพธิ์
อ.เสนา
จ.พระนครศรีอยุธยา 13110
โทรศัพท์ 089-881-1042 / 081-251-8058

การเดินทาง...ถ้าจะเดินทางไปอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
หากมีรถส่วนตัวให้ขับเข้าเส้นทางสายเอเชีย

...จากกรุงเทพฯ เข้าตัวเมืองอยุธยาใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ถ้าต้องการเดินทางไปอำเภอเสนาก็ใช้เวลาประมาณ 20
นาที

...ถ้าใช้บริการรถตู้
ต้องไปที่คิวรถหลังโรงละครแห่งชาติใกล้กับศูนย์การท่องเที่ยวกทม.เป็นรถตู้สายเดียวที่ถึงตัวเมืองเสนา
ถ้าอยากแวะตัวเมืองอยุธยา ก็ใช้บริการรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
จากนั้นอาจนั่งรถประจำทางจากตัวเมืองอยุธยามาที่อำเภอเสนา
มาถึงแล้วอาจเหมารถเข้าไปที่โฮมสเตย์คลองรางจรเข้ ไม่ไกลจากตัวอำเภอเสนา

...กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์คลองรางจรเข้ ค่าเรือชมลำน้ำราคาลำละ 300 บาท นั่งได้ประมาณ 6 คน
ควรเดินทางไปช่วงเย็นจะเหมาะที่สุด

ที่พัก...ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศแบบโฮมสเตย์สัมผัสชนบทริมน้ำ พักแบบโฮมสเตย์ในชุมชนรางจรเข้
ซึ่งต้องบอกเลยว่าเราไปซึมซับวิถีชีวิตเขานะครับ ฉะนั้น ไม่ได้หรูหราสะดวกสบายเหมือนรีสอร์ท
(บอกไว้ก่อนจ้า) มีบ้านให้พักแบบโฮมสเตย์ประมาณ 6 หลัง ค่าบริการคนไทย คนละ 500 บาท ชาวต่างชาติ 700
บาท (รวมอาหารใส่บาตร และอาหารเย็น/เช้า)





(พี่ดาวเรือง คือ คนซ้าย ล่างของภาพจ้า )

Comment : 80

ก่อนที่จะพาพวกเราไปที่พัก พี่ดาวเรืองก็รีบพาเราล่องเรือชมวิวก่อนเลย เพราะพระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วว

Comment : 81

บรรยากาศดีมากๆครับ 2 ข้างทาง

Comment : 82

ผืนน้ำกว้างๆ เรียบๆ ทำให้ใจสงบได้อย่างไม่น่าเชื่อ

Comment : 83

เราจะเห็นไม้ปักเป็นแนวยาว ถามได้ความว่า "ไว้กันพวกผักตบชวาเข้าไปริมตลิ่งใกล้บ้านจ้า"

Comment : 84

ที่นี่ดอกบัวเยอะมากมายเลยครับ กิจกรรมของคนที่นี่อย่างนึงก็คือ เก็บดอกบัว ฝักบัว
ซึ่งก็สามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองด้วย

Comment : 85

ซึ่งเพื่อนๆก็เหมาซื้อดอกบัวจากป้าหลายดอกเลย ไว้ตักบาตร ไหว้พระในตอนเช้าพรุ่งนี้

Comment : 86

เหนื่อยแต่ยิ้มได้จ้า

Comment : 87

พระอาทิตย์จะลับฟ้าแล้ว นั่นหมายถึง ผมต้องรีบกลับ กทม.ไปทำงานให้ทัน 3 ทุ่ม

Comment : 88

บอกตรงๆว่า เสียดายมากๆครับ อยากไปนอนที่โฮมสเตย์สักคืน แต่ทำไงได้ กลับสู่โลกแห่งความจริง แหะๆ

Comment : 89

ร่ำลากับเพื่อนๆ แล้วรีบบึ่งรถกลับทันที ฟิ้วววววววววววว

Comment : 90

ชาวคณะชมไทยที่ไปเซอร์เวย์ด้วยกัน ซึ่งแน่นอนครับ
อยากให้เพื่อนๆรอชมรูปที่โฮมสเตย์จากกระทู้เพื่อนชมไทยที่ไปด้วยกันเลย...ผมก็รอชมอยู่นา

Comment : 91

สุดท้าย...ขอขอบคุณทาง ททท.อยุธยาด้วยครับที่แจ้งข่าวและพาเว็บชมไทยไปเยี่ยมชม

...ขอบคุณกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ดูแลตลาด แม่ค้า รวมถึงอัธยาศัย
มิตรไมตรีดีดีจากชุมชนตลาดลาดชะโดด้วยครับ

...เมื่อก่อน นึกถึงอยุธยาจะนึกถึงวัดและไหว้พระ 9 วัด ไปเช้า-เย็นกลับ
แต่ตอนนี้แบบนั้นมันธรรมดาไปแล้วครับ อิอิ

...ยังไงอยากชวนเพื่อนๆไปกัน ไม่ไกลจากกรุงเทพ ส่วนผม
เดี๋ยวไปอีกแน่นอนเพราะยังไม่ได้นอนโฮมสเตย์คลองรางจรเข้เลย พลาดอย่างแรง เน้นย้ำกันอีกสักที

...สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ เทศบาลตำบลลาดชะโด เลขที่ 99 หมู่ 1 ตำบลหนองน้ำใหญ่ อำเภอ ผักไห่
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หมายเลขโทรศัพท์ 035-740263-4 หรือ ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา
หมายเลขโทรศัพท์ 035-322730-1


...แล้วเจอกันครับบบบ

เจอกันกระทู้หน้าจ้า

Comment : 92

ภาพสวย งานดี รายละเอียดเพียบ

แล้วจะไปตามรอยนะครับ

Comment : 93

ภาพเล่าเรื่องได้เยี่ยมเลยอ่ะ

น่าไปเดินเล่นจริงๆ

Comment : 94

รอตั้งแต่บ่ายแล้ว ว่าเมื่อไหร่โพสต์จบ ภาพสวยใสสไตล์พิชชี่ ต้องหาโอกาสแกะรอยบ้างแล้ว

Comment : 95

พี่จิ๋ว....ที่เค้าพูดกันเรื่อง จริง ใช่มั๊ย (ไม่ต้องเถียงรูปมันฟ้อง)
ฟิ้วววววววๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

Comment : 96

ภาพสวยดีค่ะ เคยเห็นออกรายการทีวีอยู่
(ตลาดสดสนามเป้า) น่าไปเที่ยวเนอะ

Comment : 97

เยี่ยมเลยพิชชี่ ภาพสวยๆ ทั้งนั้นเลย อยากเชิญชวนให้เพื่อนๆ รีบไปดูลู่ทางค้าขาย 555 มะใช่ๆ
ไปเที่ยวกัน

โดยภูมิทัศน์ สิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตที่ได้พบมานะครับ

ผมบอกคำเดียวว่าที่นี่มีอนาคต ที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ของการชมตลาดโบราณแน่นอนครับ
ทั้งฟังธง และคอนเฟริ์มเลย อยากให้ไปกันครับ ใกล้ๆ แค่นี้เอง

ภาพวีดิโอเพิ่มเติม โฮมสเตย์คลองรางจระเข้

http://www.chomthai.com/forum/view.php?qID=1654

Comment : 98

อิอิ ภาพสวย
ข้อมูลละเอียด
แล้วไปด้วยกันอีกพี่พีชชี่

Comment : 99

เยี่ยมเลย พีชชี่

เสียดายไม่ได้ไปอะ ขอจดตลาดลาดชะโดและโฮมสเตย์รางจรเข้ ไว้ในลิสต์สะพายเป้แล้วครับ

ปล.บ้านท่านขุนฯ หลอนมากเลย เสียดายน่าอนุรักษ์ไว้ ต้องลองๆ

Comment : 100

อยากจะบอกว่านอกจากฝีมือที่สุดยอดแล้ว มุมมองของพี่สวยงามดีจัง ขนาดไปตั้ง 2 วัน กลับมาดูภาพพี่
ยังคิดเลยว่า เรายังเก็บไม่หมด >,<

อย่างนี้ต้องไปย้ำ 555+